ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล็อก ผิดพลาดประการใดผู้จัดทำขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ขอบคุณค่ะ

วันเสาร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

บันทึกการเรียนรู้ครั้งที่ 10 รายวิชา EAED 3214 การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับ
เด็กปฐมวัย Inclusive Education Experiences Managemant for Early Childhood
วัน ศุกร์ ที่่ 17 มีนาคม 2560  กลุ่มเรียน 101
ห้อง 34-703 เวลา 08.30-12.30 น.


ความรู้ที่ได้รับ
  • สอบกลางภาค  รายวิชาการจัดประสบการณการศึกษาแบบเรียนรวมสำหรับเด็กปฐมวัย  08.30 - 10.00 น.
  • เรียนเนื้อหา เรื่อง การจัดประสบการณ์การศึกษาแบบเรียนรวม

การจัดการศึกษษสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ คือ เด็กที่สามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ถ้าได้รับโอกาศในการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับความต้องการ

ความหมายของการศึกษาแบบเรียนร่วม (Integrated Education หรือ Mainstreaming)  การจัดให้เด็กพิเศษเข้าไปในระบบการศึกษาทั่วไป มีกิจกรรมที่ให้เด็กพิเศษกับเด็กทั่วไปได้ทำร่วมกัน ใช้ช่วงเวลาช่วงใดช่วงหนึ่งในแต่ละวัน โโยมีครูปฐมวัยและครูการศึกษาพิเศษร่วมมือกัน
การเรียนร่วมบางเวลา (Integration)   การจัดให้เด็กพิเศษเรียนในโรงเรียนปกติบางเวลา เด็กพิเศษได้มีโอกาสแสดงออกและมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเด็กปกติ มีความพิการระดับปานกลางถึงระดับมาก จึงไม่อาจเรียนร่วมเต็มเวลาได้
การเรียนเต็มเวลา (Mainstreaming)  การจัดให้เด็กพิเศษเรียนในโรงเรียนปกติตบอดเวลาที่เด็กอยู่ในโรงเรียน เด็กพิเศษได้รับการจัดกระบวนการเรียนรู้และบริการนอกห้องเรียนเหมือนเด็กปกติ เพื่อให้เด็กเข้าใจซึ่งกันและกัน เด็กปกติยอมรับเกิดความเข้าใจถึงความแตกต่าง และมีปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
ความหมายของการศึกษาแบบเรียนรวม (Inclusive Education) การศึกษาสำหรั
บทุกคน เด็กเข้ามาเรียนรวมกันตั้งแต่เริ่มเข้าการศึกษา จัดให้มีบริการพิเศษตามความต้องการของแต่ละบุคคล

สรุปความหมายของการศึกษาแบบเรียนรวม 
  • เป็นการจัดการศึกษาที่จัดให้เด็กพิเศษเข้ามาเรียนรวมกับเด็กปกติ โดยรับเข้ามาเรียนรวมกัน ตั้งแต่เริ่มเข้ารับการศึกษา และจัดให้้มีการบริการพิเศษตามความต้องการของแต่ละบุคคล
  • เด็กพิเศษทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาได้ถ้าได้รับโอกาสในการเรียนรู็ที่เหมาะสมกับความต้องการพิเศษของเขา
  • เกิดจากปรัชญาการศึกษาที่กล่าวไว้ว่า การศึกษาสำหรับทุกคน (Education for All)
  • การเรียนรวม เป็นแนวคิดทางการศึกษาอย่างหนึ่งที่โรงเรียนจะต้องจัดการศึกษาให้เด็กทุกคนโโยไม่มีการแบ่งแยกว่าเด็กคนใดเป็นเด็กปกติก และเด็กที่มีความต้องการพิเศษ
บทบาทครูปฐมวัยในห้องเรียนรวม
  • ครูไม่ควรวินิจฉัย 
  • ครูไม่ควรตั้งชื่อหรือแยกประเภทเด็ก
  • ให้ข้อแนะนำในการหาบุคลากรที่เหมาะสมในการประเมินผลหรือวินิฉัยโรค
  • ครูสามารถชี้แจงให้เห็นพฤติกรรมของเด็กในเรื่องที่เกี่ยวกับพัฒนาการต่าง ๆ
  • สังเกตเด็กอย่างมีระบบ
  • จดบันทึกพฤติกรรมเด็กเป็นช่วง ๆ
ข้อควรระวังในการปฏิบัติ
  • ครูต้องไวตอความรู้สึกและตัดสินใจล่วงหน้าได้
  • ประเมินให้น้ำหนักความสำคัญของเรื่องต่าง ๆ ได้
  • พฤติกรรมบางอย่างของเด็กไม่ได้ปรากฏให้เห็นเสมอไป
การบันทึกการสังเกต แบ่งเป็น แบบการนับอย่างง่าย ๆ  แบบการบันทึกต่อเนื่อง
การนับอย่าง่าย
  • นับจำนวนครั้งของการเกิดพฤติกรรม
  • กี่ครั้งในแต่ละวัน กี่ครั้งในแต่ละชั่วโมง
  • ระยะเวลาในการเกิดพฤติกรรม
การบันทึกต่อเนื่อง
  • ให้รายละเอียด
  • เขียนทุกอย่างที่เด็กทำในข่วงเวลาหนึ่ง หรือช่วงกิจกรรม โดยไม่เข้าไปแนะนำช่วยเหลือ
                                                                 ชมวิดีโอน้อง "ช่อแก้ว"

                            ภาพประกอบระหว่างการเรียน








กิจกรรมวาดภาพดอกบัว

การวาดภาพโดยการสังเกตจากภาพแล้วบรรยายเกี่ยวลักษณะภาพ ซึ่ง เปรียบเสมือนว่าการเป็นครูในการสังเกตและดูพัฒนาการของเด็ก เกิดขึ้นอย่างไร มีขั้นตอนการพัฒนามากน้อยเพียงใด ครูเป็นผู้ค่อยสังเกตและให้การสนับสนุน ส่งเสริมในสิ่งที่เด็กแสดงออกมา




การนำไปประยุกต์ใช้ 
     รับมือกับเด็กที่มีความบกพร่องทางพฤติกรรมและอารมณ์ เช่น วางเงื่อนไขที่ชัดเจนและมีการกล่าวคำชมเชยที่ปรากฏให้เห็น ไม่ชื่นชมทุกการกระทำตลอด เรียกใช้ให้เด็กได้เคลื่อนไหวเพื่อลดการเบื่อหน่ายในเด็กที่เป็นสมาธสั้น

การประเมิน
ประเมินตนเอง  ตั้งใจฟัง แต่งกายเรียบร้อย ให้เกียรติอาจารย์ด้วยการเป็นผู็ฟังที่ดี และนำเรื่องราวจากการยกตัวอย่างมากประมวลให้เกิดความรู้จากตัวเองอีกครั้ง
ประเมินเพื่อน  เพื่อนตั้งใจ แต่งกายเรียบร้อย และจดบันทึกเนื้อหาสาระที่สำคัญระหว่างการบรรยายจากอาจารย์ มีพูดคุยบ้างแต่ตั้งใจดี ทำให้เกิดความสนุกสนานระหว่างการเรียน
ประเมินอาจารย์  อาจารย์ตรงต่อเวลา และมีการวางแผนที่ดี เตรียมการสอนตามระเบียบที่วางไว้ เน้นย้ำถึงความสำคัญ ยกตัวอย่างประกอบการบรรยาย ทำให้เกิดความเข้าใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น